บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รวมเครื่องพ่นหมอกควัน เครื่องพ่นละอองฝอย เครื่องกำจัดยุงแมลง เครื่องกำจัดเชื้อไวรัสโควิด19 น้ำยาฆ่าเชื้อโรค อันดับ 1 ในประเทศไทย

บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รวมเครื่องพ่นกำจัดยุงแมลงและกำจัดเชื้อไวรัสโควิด19 อันดับ 1 ในประเทศไทย

บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รวมเครื่องพ่นหมอกควัน เครื่องพ่นละอองฝอย เครื่องกำจัดยุงแมลง เครื่องกำจัดเชื้อไวรัสโควิด19 นำยาฆ่าเชื้อโรค อันดับ 1 ในประเทศไทย

บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รวมเครื่องพ่นกำจัดยุงแมลงและกำจัดเชื้อไวรัสโควิด19 อันดับ 1 ในประเทศไทย

หาย โควิด ยังเสี่ยงเส้นเลือดอุดตัน ลองโควิด อาจทำให้พิการได้

งานวิจัยจากสวีเดนพบว่าผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงเส้นเลือดอุดตันที่ปอดสูงกว่าผู้อื่นถึง 33 เท่า หลังจากติดเชื้อไปแล้วนาน 6 เดือนนอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเส้นเลือดดำอุดตัน ซึ่ง มักเกิดขึ้นที่ขา มากกว่าผู้อื่น 5 เท่า หลังจากติดเชื้อโควิดไปแล้วนาน 3 เดือน ด้านแพทย์เผยข้อมูลใหม่ภาวะ”ลองโควิด”หลังจากหายป่วยจากโควิดมีความรุนแรงและเสี่ยงทำให้เกิดความพิการได้ ขณะที่ คาดว่าการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนจะทำให้มีผู้ป่วยลองโควิดมากขึ้น

ผลการศึกษาที่เผยแพร่บนวารสารการแพทย์ บริติช เมดิคัล เจอร์นัล (บีเอ็มเจ) ระบุว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดเส้นเลือดอุดตันที่ร้ายแรง หลังจากติดเชื้อไปแล้ว 6 เดือน แม้ขณะป่วยจะมีอาการเพียงเล็กน้อยก็ตาม // การศึกษาดังกล่าว นักวิจัยได้เปรียบเทียบข้อมูลของชาวสวีเดนมากกว่า 1 ล้านคน ที่ติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 – พฤษภาคม 2564 // กับกลุ่มตัวอย่างที่อยู่ในการควบคุมมากกว่า 4 ล้านคน ที่ไม่เคยมีผลติดเชื้อ// และหลังจากได้ปรับแก้ปัจจัยต่างๆ พบว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด มีความเสี่ยงที่จะเกิดเส้นเลือดแดงอุดตันที่ปอดสูงกว่าผู้อื่น 33 เท่า หลังติดเชื้อไปแล้ว 6 เดือน // นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเส้นเลือดดำอุดตัน ซึ่ง มักเกิดขึ้นที่ขา มากกว่าผู้อื่น 5 เท่า หลังจากติดเชื้อโควิดไปแล้วนาน 3 เดือน

ทั้งนี้ ผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรงจากโควิด และมีอาการป่วยอยู่ก่อนแล้ว มีความเสี่ยงมากกว่า และแม้แต่ผู้ที่มีอาการไม่รุนแรง ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปเช่นเดียวกัน //นอกจากนี้ โอกาสที่จะเกิดเส้นเลือดอุดตัน พบในผู้ป่วยระลอกแรกมากกว่าระลอกหลัง //ซึ่ง นักวิจัยคาดว่าเป็นเพราะการฉีดวัคซีนและการรักษาที่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป //ซึ่ง การค้นพบดังกล่าวมีนัยสำคัญทางนโยบาย และเรียกร้องให้มีการรักษามากกว่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้พัฒนากลายเป็นลิ่มเลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง นอกจากนี้ ผลการศึกษายังเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนด้วย

ด้าน ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศแผนระดับชาติ เพื่อรับมือกับวิกฤตสุขภาพที่เกี่ยวเนื่องกับลองโควิด หรือ ผลกระทบระยะยาว หลังติดเชื้อโควิด-19 หลังพบว่าจำนวนผู้ที่มีอาการลองโควิดเพิ่มสูงขึ้น//และบางคนอาจมีอาการเรื้อรังนานหลายเดือน จนทำให้ไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ //โดยปัจจุบันมีประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ที่มีอาการลองโควิดคิดเป็นร้อยละ 7 หรือประมาณ 14 ล้าน 6 แสนคน จากจำนวนประชากรวัยผู้ใหญ่ทั้งหมด //สร้างความเสียหายทั้งต่อการสูญเสียรายได้// เงินออม //และค่าใช้จ่ายเพื่อการรักษาพยาบาล คิดเป็นมูลค่าราว 386,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 12 ล้านล้านบาท

สำหรับอาการลองโควิด พบได้หลากหลายมากกว่า 200 อาการ //ส่วนใหญ่จะพบอาการต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 เดือน ทั้งอาการปวดตัว //อ่อนเพลีย //สมองล้า //หายใจลำบาก //และเหนื่อยง่าย 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงภาวะ”ลองโควิด” ระบุถึงกรณีสหรัฐฯ ซึ่ง หากเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อ จะพบว่าอัตราการเกิดภาวะ “ลองโควิด” สูงราวร้อยละ 20 // ขณะเดียวกัน ข้อมูลจากสหราชอาณาจักร รายงานปัญหาลองโควิด ในประชากรราว 1 ล้าน 7 แสนคน หรือ พบในประชากรทั่วไปได้ 1 ใน 37 คน 

ทั้งนี้ มีประชากรถึง 780,000 คนทั่วโลก ที่ประสบภาวะลองโควิดมานานกว่า 1 ปี //และมีมากถึง 334,000 คน ที่เริ่มประสบปัญหานี้ จากการระบาดระลอกของสายพันธุ์โอมิครอน //และที่น่าเป็นห่วง คือ ผู้ป่วยที่เป็นลองโควิดมีทั้งชายและหญิง และมีทุกช่วงวัย ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก //โดยขณะนี้มีเด็กที่มีลองโควิดนี้ สูงถึง 150,000 คน 

ดังนั้น บทเรียนของต่างประเทศเป็นเหมือนการเตือนให้ไทยตระหนักถึงความสำคัญของมาตรการควบคุมป้องกันโรค //ป้องกันไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด //เพราะหากไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ จำนวนติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นและจะไม่จบแค่ติดเชื้อ ป่วย รักษา หาย หรือ เสียชีวิต //แต่จะเกิดผลกระทบระยะยาว “ลองโควิด” ที่บั่นทอนสมรรถนะในการดำเนินชีวิต การทำงาน และทำให้เสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง หรือ ภาวะทุพลภาพ เป็นภาระค่าใช้จ่าย ทั้งต่อผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม 

ที่มา : www.tnnthailand.com

เกาะติดข่าวที่นี่
Website : www.enrichfog.net
Facebook : enrichfogger
Line : @enrichfogger
Youtube official : Enrichfogger Official Account
Tiktok : @enrichfog

Tags
CHEMGENE CHEMGENE HLD4H CHEMGENE HLD4L COVID19 ติดเชื้อโควิด-19 น้ำยากำจัดเชื้อโรค น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค น้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส น้ำยาฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรค น้ำยาอเนกประสงค์ ผลิตภัณฆ่าเชื้อโรค ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อ ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรค ลองโควิด เคมีกำจัดยุง เคมีกำจัดแมลง เครื่องULV เครื่องกําจัดเชื้อโรคในอากาศ เครื่องฆ่าเชื้อโรค เครื่องฆ่าเชื้อโรคโควิด19 เครื่องฉีดพ่นละอองฝอย เครื่องพ่น ULV เครื่องพ่น ULV ไฟฟ้า เครื่องพ่นกำจัดแมลง เครื่องพ่นกำจัดแมลงพาหะนำโรค เครื่องพ่นควัน เครื่องพ่นควันไล่ยุง เครื่องพ่นฆ่ายุง เครื่องพ่นฆ่าเชื้อ เครื่องพ่นฆ่าเชื้อ ULV เครื่องพ่นยา เครื่องพ่นยาฆ่าเซื้อโรค เครื่องพ่นยุง เครื่องพ่นยุง ULV เครื่องพ่นยุงเกาหลี เครื่องพ่นยุงแบบพกพา เครื่องพ่นละอองฝอย เครื่องพ่นละอองฝอย ULV เครื่องพ่นละอองฝอยสะพายหลัง เครื่องพ่นสารเคมี ULV เครื่องพ่นหมอก ULV เครื่องพ่นหมอกควัน โควิด โควิด 19