เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับโควิด-19 ระบุว่า “ทีมวิจัยของเกาหลีใต้ได้นำเสนอผลการทดลองชิ้นหนึ่งออกมาน่าสนใจมากครับ” เป็นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาตอบคำถามเกี่ยวกับความสามารถการติดเข้าสู่เซลล์ปอดของมนุษย์ของไวรัส SARS-CoV-2 แต่ละสายพันธุ์ได้ชัดเจนขึ้น
ทีมวิจัยทำการแยกเซลล์ถุงลมปอดของมนุษย์ออกมาเลี้ยงในห้องปฏิบัติการและเหนี่ยวนำให้เซลล์ดังกล่าวเจริญเป็นโครงสร้างที่เรียกว่า Organoid ซึ่งเป็นสภาวะที่ใกล้เคียงกับอวัยวะจริงในร่างกาย มากกว่าการใช้เซลล์เพาะเลี้ยง ที่มักแยกมาจากเซลล์มะเร็งปอดและมีการเลี้ยงมาเป็นเวลานาน
พอได้ระบบ Organoid ของปอดมนุษย์แล้ว ทีมวิจัยได้นำไวรัสที่แยกได้จากผู้ป่วยในเกาหลีใต้ที่มีการถอดรหัสพันธุกรรม 100% เรียบร้อยแล้ว 4 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เดิม (GR), Alpha, Delta และ Omicron จำนวนเท่าๆ กัน มาผสมกันและปล่อยให้ไวรัสทั้ง 4 สายพันธุ์ติดเข้าสู่ Organoid ปอดที่สร้างขึ้น ทีมวิจัยได้มีการใช้ระยะเวลาที่ให้ไวรัสไปบ่มกับเซลล์ที่เวลาต่างๆ กัน ที่น่าสนใจคือ เค้าใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที ก็สามารถพบว่า ไวรัสสามารถติดเข้าสู่เซลล์ได้แล้ว
หลังจากบ่มไวรัสที่เตรียมไว้กับ Organoid ปอด ทีมวิจัยทำการแยกเซลล์ปอดที่ติดเชื้อออกเป็นเซลล์เดี่ยว แล้วนำเซลล์เดี่ยวๆ นั้นไปถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสในแต่ละเซลล์ด้วยเทคโนโลยี SMART-seq3 ที่ทีมวิจัยระบุว่าสามารถอ่านรหัสพันธุกรรมในเซลล์เดี่ยวๆ แต่ละเซลล์นั้นได้ละเอียดมากพอที่จะแยกสายพันธุ์ไวรัสที่เข้าไปติดเซลล์เหล่านั้น ผลการทดลองจากการถอดรหัสเซลล์จำนวนเกือบ 190 เซลล์ ทีมวิจัยพบว่า 52 เซลล์ (คิดเป็น 27.2%) ถูกติดเชื้อโดยไวรัส 1 สายพันธุ์ ในขณะที่มีเซลล์มากถึง 85 เซลล์ (44.5%) ถูกติดเชื้อไวรัสได้ 2 สายพันธุ์ และ มีมากถึง 52 เซลล์ หรือ 27.2% สามารถถูกติดเชื้อได้ 3 สายพันธุ์พร้อมๆ กัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมาก เพราะความเชื่อก่อนหน้านี้เกี่ยวกับโอกาสที่ไวรัสจะเข้าไปอยู่ในโฮสต์พร้อมๆ กันมากกว่า 1 สายพันธุ์ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่ ผลจากงานวิจัยนี้ก็บอกว่าไม่ยากเช่นกัน
ในบรรดาเซลล์ที่นำมาวิเคราะห์หาชนิดของไวรัสที่ติดเข้าไปได้ ทีมวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเซลล์ที่ติดสายพันธุ์โอมิครอน ตามมาด้วย Alpha และ Delta กับ สายพันธุ์ดั้งเดิม ทีมวิจัยพบว่าโอมิครอนมีความสามารถติดเข้าไปในเซลล์ปอดที่ใช้ในการศึกษานี้ไวกว่าสายพันธุ์อื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ (ประมาณ 4.8 เท่า)… แต่ยังไม่ชัดเจนว่าผลของการศึกษานี้จะขัดแย้งกับการศึกษาก่อนหน้านี้ที่พบว่าโอมิครอนติดเซลล์ปอดไม่ดีหรือไม่ คงต้องดูในรายละเอียดของชนิดของเซลล์ที่ใช้ ตลอดจนความแตกต่างของไวรัสด้วย
“ประเด็นที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือ โอกาสที่ไวรัสเข้าไปเพิ่มจำนวนตัวเองในเซลล์เดียวกันได้หลายๆ สายพันธุ์ในเวลาเดียวกัน เพราะนั่นคือกลไกการสร้างไวรัสลูกผสมตระกูล X ทั้งหลาย ถ้าเกิดขึ้นได้ง่ายขนาดนี้ ไวรัสหน้าตาแปลกๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ง่ายเช่นกันครับ”
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Anan Jongkaewwattana
ที่มา : www.dailynews.co.th
เกาะติดข่าวที่นี่
Website : www.enrichfog.net
Facebook : enrichfogger
Line : @enrichfogger
Youtube official : Enrichfogger Official Account
Tiktok : @enrichfog
บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
133 ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
โทรศัพท์ : 02-439-7289 (Auto) โทรสาร : 02-439-6289 (Auto)
Email : enrichfogger@gmail.com Add Line : @enrichfogger
กสมา : 091-993-8939
ดวงใจ : 095-368-6189
กัญญมณฑ์ : 083-063-9891
วีระพล : 094-146-5939
ธนกิจ : 094-873-1938
พชรพล : 063-525-7898
นัจยา : 082-332-9567
ภคนันท์ : 094-508-9278
อดิศักดิ์ : 064-894-6418
มิตรภาพ : 087-415-2828
บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
133 ถนนกรุงธนบุรี แขวงคลองต้นไทร
เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
โทรศัพท์ : 02-439-7289 (Auto)
โทรสาร : 02-439-6289 (Auto)
Email : enrichfogger@gmail.com
Add Line : @enrichfogger